วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Mini Review - Microsoft Surface Pro Tablet - Tablet ไร้ขีดจำกัด สำหรับผู้ใช้ Windows ทุกคน

ขอออกตัวไว้ก่อนเลยว่า ผมใช้ Tablet มามากมายหลายยี่ห้อ iPad นี่ผมซื้อตั้งแต่ iPad 1 -3 (รวม iPad Mini) ส่วน Android ผมมี Asus Transformer และ Acer Iconia B1 สำหรับคอมพิวเตอร์ก็เคยใช้ทั้ง Windows และ OSX ละครับ แต่ส่วนมากผมใช้ Windows 7 เป็นหลัก เพราะงานที่ทำ โปรแกรมที่ผมใช้ทำมาหากิน ล้วนแต่พัฒนาสำหรับ Windows ทั้งนั้น

พอได้ข่าวว่า MS จะทำ Surface Pro ออกมาขาย ผมก็ตัดสินใจบัดเดี๋ยวนั้นเลยว่า จะต้องซื้อมาลองใช้งานดูให้ได้ ตอนแรกเห็นบอกว่าจะออกวางขายปลายปีที่แล้ว แล้วก็เลื่อนมาเรื่อยๆ ผมก็อดทนรอมาเรื่อยๆ จนกระทั่งวันที่ 9 กพ ที่ผ่านมานี้ละครับ MS จึงเริ่มขาย Surface Pro ทั้ง 128GB และ 64GB ที่ Microsoft Store, Best Buy และ Staples

ผลตอบรับก็อย่างที่เราได้อ่านข่าวกันนะครับ รุ่น 128GB มีวางขาย on-line ได้ 2 ชม ก็ Sold Out จนถึงทุกวันนี้ (เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมานี้ MS เริ่มเปิดรับให้สั่งจองรุ่น 128GB ได้อีกครั้งหลังจากปิดรับ Order ตั้งแต่วันที่ 9 ที่ผ่านมา แต่จะส่งของให้ประมาณต้นเดือนมีนาคม)

ส่วนรุ่น 64GB นี่ยังสั่ง on-line ได้เรื่อยๆ นะครับ แต่ของจริงที่ Best Buy และ Staples นี่ไม่มีเหลือแม้แต่ตัวโชว์

สำหรับการที่รุ่น 128GB เป็นที่ต้องการอย่างมาก ก็เพราะ website ที่เขียน review ต่างๆ เช่น Engadget, Gizmodo และอื่นๆ ออกมาบอกว่ารุ่น 64GB จะมีเนื้อที่ HDD (จริงๆ คือ SSD) เหลือใช้แค่ 20 กว่า GB ทำให้คนหันไปซื้อรุ่น 128GB กันหมด รวมทั้งผมเองด้วย แต่เนื่องจากของมันขาดตลาด และผมอยากจะเล่นมากๆ ก็เลยบอกเพื่อนที่ USA ว่า 64GB ก็เอาวะ คงจะพอแก้ขัดไปได้

แต่เอาเข้าจริงๆ พอผมได้รับเครื่องมา ผมก็จัดการย้าย Recovery Partition ออกมาเก็บใน USB Drive แทน, ลบ MS Office 2013 ตัว Preview ที่แถมมาให้ แล้วลง Office ตัวเก่า (แต่ Support Windows 8 เหมือนกัน) แทน ปรากฎว่าเนื้อที่ HDD ของผมเหลือ 40.xx GB เลยทีเดียว บวกกับ Surface Pro สามารถรองรับ Micro SDXC ได้ถึง 64GB และยังมี Port USB3 อีก 1 Port ทำให้ Surface Pro 64GB ก็เหลือเฟือ สำหรับผู้ใช้ทั่วๆ ไป อย่างผม นี่ยังไม่นับ SkyDrive หรือ Dropbox อีกต่างหาก

ส่วนเรื่องแบตเตอรี่ ที่พวก Engadget และอื่นๆ บอกว่าได้แค่ 3 ชมกว่าๆ จากการใช้จริงของผม ซึ่งวันนี้พอผมชาร์จแบตเต็ม ก็เริ่ม Update Windows, ย้าย Partition, ลง Office ตัวเต็ม และทำ Slide Powerpoint ที่จะใช้ present งาน ลงโปรแกรมที่สำคัญๆ แถมยังเปิดเน็ตเช็ค email และดู web site ต่างๆ ตลอดเวลา นับไปนับมาเปิดเครื่องมาแล้วมากกว่า 6 ชม แบตผมยังเหลืออีก 20 กว่า % เลยทีเดียว ก็ไม่รู้ว่าพวก Engadget และอื่นๆ เขาวัดแบตอย่างไร ถ้าให้เดาคงจะเปิด Game แบบ spec สูงสุดวนลูปตลอดเวลามั้ง แบตถึงหมดไวขนาดนั้น

เอาเป็นว่าอย่าเชื่อ web พวกนี้มาก บาง web ก็ชอบ Apple เกลียด Android และ MS, บาง web ก็ชอบ Android เกลียด Apple และ MS อะไรทำนองนี้ ผมว่า web ที่เชื่อถือได้คือ AnandTech นะครับ ซึ่งวัดแบตเตอรี่ของ Surface Pro ไว้ที่ 5.30 ชม

เริ่มดูรูปก่อนก็แล้วกัน แล้วผมจะสรุปข้อดีข้อเสีย อนาคตของ Surface Pro ให้ฟัง ถ้าใครมีคำถาม หรืออยากจะดูรูปตอนไหน ก็โพสไว้ได้ เดี๋ยวจะทยอยถ่ายให้ดู








เปิดฝาออกมาจะพบกับ MS Surface Pro วางเคียงคู่กับ Power Supply (110-240V)


ข้างใต้จะเป็น คู่มือ (มี 5 หน้าเอง), ใบรับประกัน และ ปากกา (Digital Pen)

เท่าที่อ่านดู เจ้าตัวปากกานี่แหละครับ ที่มีส่วนทำให้ MS Surface Pro แพงเกินหน้าเกินตา Tablet ทั่วไป (นอกเหนือจาก CPU) ปากกานี้ใช้ยึดติดกับเครื่อง โดยใช้แม่เหล็ก เท่ห์มากๆ



$899 ได้แค่นี้ละครับ ลองสังเกตดู Power Supply ให้ดีนะครับ จะเห็นว่าไม่เหมือนชาวบ้านทั่วๆ ไป และแน่นอนว่าชาร์จกับ USB หรือ ที่จุดบุหรี่ในรถไม่ได้ (แต่ต่อไป คงจะมีคนทำออกมาขายละครับ)


Surface Pro ก็เหมือน Surface RT ละครับ คือมี Kick Stand (ขาตั้งในตัว) ของ Pro รู้สึกว่าองศาจะดีกว่า RT นิดนึง แต่ปรับระดับไม่ได้เหมือนกันทั้ง 2 รุ่น


กดปุ่ม Power ปุ๊บ หน้าจอ Metro ก็ขึ้นมาทันที ไม่มีหน่วงแต่ประการใด

ปล มุมขวาบน ไม่ใช้จอเสียนะครับ แต่ผม censor username ของผมเอง


ภาษาไทยไม่มีปัญหา มันจะมีปัญหายังไงละครับ ก็มันคือ Windows ตัวนึงที่เราใช้กันอยู่ทุกวัน


ลองประกอบร่างกับ Touch Cover ดู หน้าจอ Default ปรากฎขึ้นทันที เทียบกับ iPad 3 ของผมแล้ว ผมว่า Surface Pro ภาพสวยกว่าอีกนะครับ ยิ่งดูกับวิดีโอ พวก mp4, mkv ภาพชัดและสวยจนน่าตกใจ


Touch Screen Keyboard ภาษาอังกฤษ


Touch Screen Keyboard ภาษาไทย แบบแรก


Touch Screen Keyboard ภาษาไทย แบบที่ 2






IE10 เทพมากครับ ผมลองเล่น youtube ของผมเอง (วิธีดู Netflix ในเมืองไทย) ภาพเป็นแบบ HD สวยมากๆ ครับ สำหรับรูปคงพอแค่นี้ก่อนนะครับ อยากจะเห็นส่วนไหน เดี๋ยวจะถ่ายมาให้ดูอีก




ก่อนจะสรุปข้อดีข้อเสีย ต้องขอบอกก่อนนะครับว่า เลิกเอา MS Surface Pro ไปเทียบกับ iPad หรือ Android Tablet เพราะมันเป็นคนละตระกูลกันครับ เราจะต้องเอา MS Surface Pro ไปเทียบกับพวก Ultrabook ที่ Touch Screen ได้ และใช้ CPU แรงๆ อย่าง Core i5 หรือ i7 ถึงจะเหมาะสมกัน

MS Surface Pro นี่จะคุ้มหรือไม่ จะเหมาะกับตัวเราหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้แต่ละคนนะครับ เช่นถ้าจะเอามาเล่นเกมส์พวก Angry Bird ละก็ไม่เหมาะครับ ไม่ใช่มันเล่นไม่ได้นะครับ แต่มันไม่เหมาะสมกับการใช้งานครับ ไม่เชื่อลองไปค้นใน youtube ดูนะครับ MS Surface Pro สามารถเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ที่แรงๆ ได้สบายมาก เช่น Starcraft 2, Battlefield 2 (แต่เป็น lowest setting นะครับ)

หรือถ้าจะซื้อมาเล่น FB, Twitter ละก็ซื้อพวก Chromebook หรือ iPad Mini ก็พอครับ เหตุผลเดียวกับข้างต้น

จริงๆ แล้วจะซื้อมาเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์เจ๋งๆ แม้ Surface Pro มันจะทำได้ดีพอสมควร แต่ผมว่ามันก็ไม่ค่อยเหมาะนะครับ เพราะ GPU มันยังไม่แรงเท่าไร แถมจอเล็กไปด้วย แต่ก็มีฝรั่งหลายคนซื้อมาเพื่อเล่นเกมส์ PC เพราะเขาต้องการได้ฟีล Touch Screen และ Portable ซึ่งก็ว่ากันไป


ข้อดีสำหรับผม

1) ไร้ขีดจำกัดในการใช้งาน => อันนี้สำคัญมากครับ เพราะมันคือ Windows เครื่องหนึ่ง ที่มี USB และ Micro SD Card แค่นี้ก็ตอบได้ทุกคำถามละครับ อยากจะใช้ mouse ก็ซื้อ Mouse Bluetooth มาใช้ อยากจะใช้คีย์บอร์ดภาษาไทย ก็ซื้อ Keyboard ภาษาไทยมาต่อ (ได้ทั้ง USB และ Bluetooth), ต่อ External Blu-ray Drive, ต่อกล้อง IP Cam รุ่นเทพ, ต่อสาย LAN, ต่อ Minidisplay Port, ต่อกับ HDD 4TB, ต่อกับกล้อง DLSR, ต่อกับ Aircard, และอื่นๆ อีกมากมาย หลายล้านอุปกรณ์ที่สามารถต่อแบบ USB หรือ MiniDisplay Port ได้
2) มีโปรแกรมให้ใช้มากมายมหาศาล => ก็มันคือ Windows ละครับ โปรแกรมอะไรที่ run บน Windows ได้ ก็ต้อง run บน Surface Pro ได้ แน่นอนที่สุด อ้อรวมถึงเกมส์ และ rom เกมส์อีกเป็นหมื่นเป็นแสนเกมส์
3) ไม่ต้องกังวลเรื่องแปลงไฟล์ => ไม่ว่าไฟล์อะไร ก็ไม่มีข้อจำกัดอีกต่อไปละครับ เช่นแต่ก่อนจะเอา MKV ที่เข้ารหัสขั้น Advance มาเล่นบน iPad หรือ Android ยังต้องแปลงให้เป็นเข้ากับเครื่อง ไม่อย่างงั้นมีกระตุกหรือเสียงไม่ตรงกับภาพ นี่ยังไม่ได้พูดเรื่อง subtitle นะครับ ส่วน Surface Pro นี่ผ่านตลอดครับ Handbreak ต่อไปคงไม่ต้องใช้ กว่าจะแปลงเสร็จไฟล์นึง 2-3 ชม
4) เบากว่า Laptop แทบทุกตัว ในราคาที่เท่าๆ กัน => ใครจะบอกว่า Levono Helix น่าจะแรงกว่า ดีกว่า เบากว่า แต่ขอโทษ ราคาเริ่มที่ $1500 นะครับ แถมเลื่อนไปเรื่อยๆ ล่าสุดเป็นกลางปีนี้แล้ว กว่าจะวางขาย
5) ไม่ต้องรอให้ Developer ปรับปรุงหรือ optimize โปรแกรมที่เราอยากจะได้ ให้เข้ากับ Tablet ที่เรามี => โปรแกรมทางคณิตศาสตร์ สถิต POS วิเคราะห์หุ้น และอื่นๆ อาจจะต้องรออีกนานครับ กว่า developer จะทำ version iOS หรือ android ออกมาให้ใช้แบบพกพา ส่วนคนที่ใช้ Surface Pro ไม่ต้องรออีกต่อไป



ข้อเสียสำหรับผม

1) Power Supply เป็นแบบเฉพาะ น่าจะเป็นแบบ USB เหมือนชาวบ้านเขา
2) เวลาชาร์จแบต จะต้องเอาปากกาออกมาวางไว้ เพราะใช้ magnetic ตำแหน่งเดียวกัน
3) ขาตั้ง น่าจะปรับได้หลายระดับมากกว่านี้
4) เวลาเล่นเกมส์แรงๆ ด้านหลังๆ มีอุ่นๆ (ไม่ร้อนแบบ iPad 3 ของผม) และมีเสียงพัดลมเบา (แทบไม่ได้ยิน แต่ถ้าเป็นคนหูทิพย์อาจจะรับไม่ได้)




การใช้งานสำหรับผม

MS Surface Pro ตัวนี้คงจะมาแทน Tablet ทั้งหลายที่ผมมีละครับ ผมรอมานานแล้ว Excel ที่คุ้นเคย ไม่ต้องไปเรียนโปรแกรมใหม่ๆ อีกต่อไป โปรแกรมนอกจาก Office แล้ว ผมก็คงจะลง Crystal Report และ VB เอาไว้เขียนโปรแกรมเวลาว่าง , ลง Meta Stock เอาไว้ด้วย, ลงโปรแกรม POS ที่ Office ผมใช้อยู่ เวลาผมไป Office ก็จะต่อเข้ากับ LAN ของระบบเลย (USB -> LAN Port) อาจจะลงเกมส์ ทั้งแบบ Raw และ Stream กับลง emulator ติดไว้นิดหน่อย เอาไว้เล่นเวลาว่าง

ถ้ายังมีเนื้อที่เหลือ ผมก็คงจะลง VMWare ด้วย ส่วน image ผมมีอยู่ 7-8 อันเอาไว้ที่ Micro SD Card ก็ได้ สบายมาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น